ซื้อบ้านอย่างไร ให้ผ่อนสบายจ่ายดอกเบี้ยน้อยที่สุด

ซื้อบ้านอย่างไร ให้ผ่อนสบายจ่ายดอกเบี้ยน้อยที่สุด

บ้านถือเป็นทรัพย์สินชิ้นใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต ที่แน่นอนว่าน้อยคนนักจะซื้อด้วยเงินสด ส่วนใหญ่จะซื้อด้วยการขออนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร แล้วผ่อนชำระเสียมากกว่า ซึ่งข้อดีของการขอกู้ซื้อบ้านก็คือทำให้เราไม่ต้องเสียเงินก้อน และมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเป็น “หนี้” ที่มีดอกเบี้ยต้องจ่ายทุกเดือน ทำให้ในภาพใหญ่แล้ว เราต้องจ่ายแพงกว่าราคาบ้านจริงๆ ไปมาก โดยสำหรับใครที่ต้องการซื้อบ้านในฝันให้ผ่อนสบายจ่ายดอกเบี้ยน้อยที่สุด สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแนวทางหลักๆ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้

เลือกธนาคารที่ดอกเบี้ยต่ำที่สุด
เมื่อวางแผนจะซื้อบ้านแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใจร้อน เพราะหากไม่เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารให้ดี ก็จะทำให้เสียโอกาส ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่าที่ควรจะเป็น โดยเมื่อเราเลือกบ้านหลังที่ต้องการได้แล้ว ควรปรึกษากับธนาคารหลายๆ แห่ง หรือทุกแห่งได้ยิ่งดี เพื่อขอโปรแกรมสินเชื่อบ้านมาเปรียบเทียบดูว่า ธนาคารใดให้อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด โดยมีข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่วางแผนผ่อนยาว ให้ดูอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยให้น้อยที่สุด แต่ถ้าใครที่ตั้งใจผ่อนสั้นจะปิดหนี้ให้จบก่อนครบสัญญา ให้พิจารณาดูที่ดอกเบี้ยช่วงปีแรกให้น้อยที่สุด เพื่อให้เราผ่อนได้น้อยที่สุด

ถ้ามีรายได้เพิ่มขึ้น ให้รีบโปะลดเงินต้นให้ได้มากที่สุด
ปกติเมื่อขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านผ่านแล้ว ธนาคารจะคำนวณค่างวดผ่อนรายเดือนมาให้ ซึ่งก็จะเป็นงวดผ่อนที่คิดอัตราดอกเบี้ยจากราคาบ้าน ทั้งนี้ หากเรามีเงินก้อนใหญ่ไปโปะ เงินต้นจากราคาบ้านก็จะลดลง ทำให้เราเสียค่าผ่อนต่อเดือนน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่ไม่ต้องการจ่ายค่างวดผ่อนซื้อบ้านให้น้อยที่สุด ก็ไม่ควรมองข้ามการโปะที่ทำให้ยอดเงินต้นลดลง ทั้งนี้ ยิ่งหากในช่วง 3 ปีแรกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ เราโปะบ้านได้มาก ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนก็จะยิ่งลดน้อยตามลงไปด้วย

ผ่าน 3 ปี หาวิธีลดดอกเบี้ยเพิ่มลงให้ได้
อัตราดอกเบี้ยบ้านของทุกธนาคารส่วนใหญ่แล้วจะผ่อนถูกในช่วง 3 ปีแรก หลังจากนั้นก็จะขยับปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเพื่อไม่ให้เสียโอกาสต้องผ่อนแพงมากขึ้น เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้หลักๆ 2 วิธี คือ ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ซึ่งถ้าหากเรามีประวัติการผ่อนชำระที่ดี และมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง โอกาสที่ธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ก็มีสูง เพราะธนาคารก็อยากได้รับการผ่อนชำระจากเราไปนานๆ กับอีกวิธีหนึ่งในกรณีที่ธนาคารไม่ปรับลดดอกเบี้ยให้ เราสามารถทำ Refinance หรือ ย้ายไปผ่อนกับธนาคารอื่นได้ ซึ่งเมื่อไปผ่อนกับธนาคารใหม่ ช่วงแรกเราก็จะได้ดอกเบี้ยถูกกว่าเหมือนเดิม ที่สำคัญคือ เงินต้นลดลงไปมากแล้วด้วยเพราะผ่อนมาแล้ว 3 ปี ก็ยิ่งทำให้ค่างวดผ่อนนั้นลดน้อยลงไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม ในการ Refinance ก็จำเป็นต้องเปรียบเทียบดอกเบี้ยของธนาคารใหม่หลายๆ ธนาคารเช่นกัน รวมถึงยังต้องคำนวณค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ดีด้วย เพื่อให้การ Refinance ของเราเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าจริงๆ

เมื่อตัดสินใจซื้อบ้านแล้ว เราจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการผ่อนทุกเดือนไปเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ดังนั้น การวางแผนเพื่อให้จ่ายค่างวดผ่อนบ้านได้น้อยที่สุด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้เราได้ ทำให้สามารถประคับประคองผ่อนจ่ายไหว ไม่เสี่ยงเกิดปัญหาการเงินติดขัดจนถูกยึดบ้านในภายหลัง โดยการวางแผนนั้นก็ควรเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนซื้อบ้านที่ต้องเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย และเปรียบเทียบเพื่อเลือกที่ถูกที่สุด ในขณะที่ในระหว่างผ่อนก็ต้องมีวินัยทางการเงิน เก็บเงินโปะลดต้นลดดอกให้ได้ รวมถึงยังต้องวางแผนเรื่องการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการทำ Refinance ด้วยไปพร้อมกันเมื่อถึงเวลา จึงจะทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านให้เสียน้อยที่สุดได้สำเร็จ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Think Of Living
https://www.reic.or.th/Knowledge/SuggestionHomeDetail/66